Username or email *
Password *
Remember Me
Log in
No products in the cart.
รองเท้าสเก็ตแบบสลาลม
ก็คือรองเท้าสเก็ตทั่วไปนี่แหละ
แต่ทำไมเค้าถึงเรียกว่า สลาลม
คำว่า สลาลม เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลเอาตามเคลื่อนไหว
ก็คือ การเคลื่อนที่แบบซิกแซก เปลี่ยนทิศทางกลับไปกลับมา
โดยมีคนเอาสเก็ตมาปรับ ๆ เพื่อให้ รองเท้าสเก็ต หรือ โรลเลอร์สเก็ต มีแนวคิดที่ว่านั้นออกมา
ปรับเปลี่ยนให้รองเท้าสเก็ต มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและรวดเร็ว
เพราะเขาเห็นขีดจำกัดของรองเท้าสเก็ตทั่วไป
ว่ามันยังไม่ได้ดั่งใจ
สรุปก็คือเป็นการเอาสเก็ตมาปรับเปลี่ยนใหม่นั่นแหละ
พอปรับไปแล้วก็รู้แล้วว่า ต้องทำยังไงบ้าง
ก็ผลิตรองเท้าสเก็ตตามมา
โดยเบื้องต้นก็ให้บูทรองเท้าสเก็ต แบบทั่วไปมันแข็งแรงขึ้น
ปรับองศาของล้อสเก็ตให้หน้าและหลังยกขึ้น
ทำให้เวลาเลี้ยวและกลับตัวง่ายขึ้น
บูทสเก็ต : ต้องกระชับ คงรูป
เรียกว่า ติดเท้า ขยับเท้าแบบไหน รองเท้าสเก็ตก็ตามไปด้วย
ถ้าเป็นบูทรองเท้าสเก็ต ผ้าใบแบบที่เห็นทั่วไปมันก็อาจจะใช้ได้
แต่เวลาเราขยับ แรงขยับที่มาจากน้ำหนักตัว เท้า จะส่งผลกับรูปทรงของบูทสเก็ต การเคลื่อนไหว
ก็จะไม่ค่อยได้ดั่งใจเท่าไหร่ หรือภาษาชาวบ้านแบบเรา ๆ ก็จะเรียกว่า
มันย้วยยังไงล่ะ
ดังนั้นสเก็ตสลาลมที่คุณภาพดี ตัวบูทก็จะทำด้วยพลาสติกไฟเบอร์หุ้มข้างนอกอีกชั้น
หรือจะตัดด้วยหนังเทียม หรือจะเอาให้ขั้นเทพสุด ๆ อย่างตอนนี้ก็ต้อง เคฟลาห์ หรือ Carbon Fiber
เฟรมสเก็ต : เป็นอลูมิเนียมจะดีมาก
เพราะน้ำหนักเบา ทนแรงบิดจากการเคลื่อนไหวซ้ำได้ดีกว่าพลาสติก
ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความยาวของเฟรมสเก็ตแบบสลาลม นิยมใช้เฟรมสเก็ตแบบสั้น
เพราะ เฟรมสเก็ตยิ่งสั้น ก็ยิ่งคล่องตัว
ล้อสเก็ต : นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ในการแปลงร่างจากรองเท้าสเก็ตธรรมดา เป็นรองเท้าสเก้ตแบบสลาลม
หลักการง่ายมาก ปกติล้อสเก็ตจะเท่ากัน 4 ล้อเลย
ก็จับเปลี่ยนล้อหน้ากับล้อหลังให้มันเล็กลง อย่างละ 2 มิลลิเมตร เท่านี้
รองเท้าสเก็ตคู่ไหนก็ช่าง ที่เคยเลี้ยวยากแสนเข็ญ จะเลี้ยวง่ายในพริบตา
ไม่เชื่อก็ลองดู เพราะแรงเสียดทานมันหายไปเป็นครึ่ง
เพราะล้อหน้ากับล้อหลัง มันไม่ค่อยสัมผัสพื้นแล้ว ความหนืดน้อยลง ทีนี้ก็จะหมุนตัวกับที่ได้เลย ถ้าฝึกบ่อย ๆ
อธิบายแบบง่าย ๆ เลยก็คือ มันเป็นการมองอะไรแบบด่วนตัดสิน
รองเท้าสเก็ตแต่ละแบบ ก็จะมีข้อจำกัดในตัวเอง
แต่ทว่า รองเท้าสเก็ตแบบสลาลม จะมีคุณลักษณะพิเศษ
ที่ทำให้มันเป็นสเก็ตแบบอเนกประสงค์
เรียกว่าอยู่ตรงกลางของสเก็ตทุกรูปแบบ
ดังนั้น การได้สเก็ตแบบสลาลมไปครอบครองนั้น
เรียกว่า เป็นการซื้อการใช้งานในแทบจะทุกด้านเลย
ดังนั้น มันไม่ได้อยู่ที่เราจะเล่นหรือไม่เล่นแบบสลาลม
มันเป็นแค่คำจำกัดความ ให้ดูเรื่องประสิทธิภาพที่มันทำได้
นั่นแหละคือคำตอบของโจทย์ที่ว่า เสียเงินเท่ากัน แต่ได้มากกว่า